หน้าแรก

วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2555

13 วิธีการใช้ iPhone, iPad ให้ประหยัดแบตกว่าเดิม


คงเป็นปัญหาจริงๆสำหรับสมาร์ทโฟนในตอนนี้ ที่มีความสามารถมากมายพร้อมกับคุณสมบัติที่ครบครันเกินกว่าจะเป็นเพียงโทรศัพท์มือถือ แต่เมื่อเราใช้งานไม่เท่าไรบางทีไม่ถึงวันแบตเตอรีก็ขึ้นขีดแดงไม่เว้นแม้แต่ iPhone
  
คงเป็นปัญหาจริงๆสำหรับสมาร์ทโฟนในตอนนี้ ที่มีความสามารถมากมายพร้อมกับคุณสมบัติที่ครบครันเกินกว่าจะเป็นเพียง โทรศัพท์มือถือ แต่เมื่อเราใช้งานไม่เท่าไรบางทีไม่ถึงวันแบตเตอรีก็ขึ้นขีดแดงไม่เว้นแม้ แต่ iPhone หรืออุปกรณ์อื่นๆ จาก Apple อย่าง iPod Touch, iPad ที่เป็นแบตเตอรีแบบลิเธียม

 วันนี้ผมมีขอเสนอ 13 ทิปเด็ด ที่จะช่วยให้ iPhone 4 ของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยไม่ต้องชาร์จแบตเตอรีหลายๆ ครั้ง

 1. เก็บ iPhone 4 ของคุณให้ห่างไกลจากความร้อน
 

1. เก็บ iPhone 4 ของคุณให้ห่างไกลจากความร้อน

 สิ่งที่ไม่ควรอย่างแรกเลยก็คือวาง iPhone 4 หรือ iPad ที่มีความร้อนระอุอย่างในรถ หรือแม้กระทั่งวางไว้ให้โดนแดด ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พลังงานในแบตเตอรีหมดลงอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงยังทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไวขึ้นอีกด้วย และแน่นอนว่า Apple ไม่ได้มีการรับประกันในส่วนนี้นะครับ

 2. ปรับค่าความสว่างหน้าจอของคุณให้พอดี
 รู้หรือไม่การที่เราปรับค่าความสว่างหน้าจอ (Brightness) ไว้ที่ค่าสูงสุดอยู่ตลอดเวลา จะทำให้สิ้นเปลื้องพลังงานไปอย่างมาก ซึ่งถึงแม้ว่าที่เราปรับไว้ในมีค่าความสว่างที่สูงในเวลากลางวัน ก็เพื่อให้เรามองเห็นได้อย่างคมชัด แต่ในตอนกลางคืนหรือในที่แสงน้อย ก็อย่าลืมปรับค่าความสว่างกลับมาให้ต่ำด้วย ซึ่งในที่นี้จะขอแนะนำไว้ที่ประมาณ 30% พร้อมทั้งกับเปิดฟังก์ชัน Auto-Brightness อยู่ตลอดเวลาด้วย

2. ปรับค่าความสว่างหน้าจอของคุณให้พอดี
วิธีการ Settings -> Brightness -> Auto-Brightness

3. ปรับเวลาการ Auto-Lock ของหน้าจอให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
 นอกเหนือจากการที่เราปรับค่าความสว่างให้เหมาะสมแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องปรับด้วยก็คือ เวลาในการ Auto-Lock ให้เร็วที่สุด เพื่อที่มันจะได้ปิดหน้าจออัตโนมัติลงได้อย่างรวดเร็ว โดยที่เราไม่ต้องไปสั่งมันอีกครั้งหนึ่ง ยกตัวอย่างกรณีที่เราใช้งาน iPhone 4 หรือ iPad เสร็จ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือฟังเพลง เมื่อเราไม่ต้องการใช้งานแล้ว ก็สามารถที่จะหย่อนลงไปในกระเป๋ากางเกงได้ทันทีโดยไม่ต้องไปแตะอะไรอีก

3. ปรับเวลาการ Auto-Lock ของหน้าจอให้เร็วขึ้นกว่าเดิม


 วิธีการ Settings -> General -> Auto-Lock

4. เปลี่ยนไปใช้ Airplane Mode เมื่อจะไม่ใช้งานโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตนานๆ
 ถ้ารู้ตัวว่าเราจะใช้งาน iPhone 4 โดยไม่ต้องการใช้งานโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตเป็นระยะเวลานานๆ แล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมส์หรือฟังเพลงก็ตาม ขอแนะนำให้ใช้ Airplane Mode ซึ่งจะทำการปิดไวไฟและการเชื่อมต่อเครือข่ายทั้งหมด ส่งผลให้ยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรีได้อย่างทันที อีกทั้งยังจะไม่มีอะไรมารบกวนเรา ขณะที่กำลังเล่นเกม หรือฟังเพลง


. เปลี่ยนไปใช้ Airplane Mode เมื่อจะไม่ใช้งานโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตนานๆ
วิธีการ Settings -> Airplane Mode

5. เมื่อเราเชื่อมต่อด้วยไวไฟแนะนำให้ปิด 3G ลงซะ
 ถึงแม้ว่า แอปเปิลจะออกมาบอกไว้ว่า iPad มีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี 10 ชั่วโมง เมื่อเชื่อมต่อกับไวไฟและ 9 ชั่วโมงเมื่อใช้ 3G ซึ่งสำหรับ iPhone 4 ไอโฟนจะเป็น 6 ชั่วโมงเมื่อใช้ 3G และ 10 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อผ่านไวไฟ แต่ถ้าเมื่อไรเราสามารถที่จะเลือกเชื่อมต่อไวไฟได้ แนะนำว่าอย่าลืมที่จะปิดการเชื่อมต่อของ 3G ลงด้วย เพราะไม่อย่างนั้นในการใช้งานจริง iPhone 4 หรือ iPad ของเราจะใช้งานไม่ได้นานอย่างที่แอปเปิลบอกไว้


5. เมื่อเราเชื่อมต่อด้วยไวไฟแนะนำให้ปิด 3G ลงซะ
วิธีการ Settings -> Network -> Enable 3G

6. ปิดระบบ Push Mail เมื่อเราไม่ได้กำลังรออีเมลด่วน
 อย่างที่ทราบกันไอโฟนของเราจะทำการอัปเดตอีเมลอยู่ตลอดเวลาโดยอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเช่น หากเราไม่ได้กำลังรออีเมลด่วนจากใครเป็นพิเศษ ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดการทำงานของ Push Email เพราะเพียงแค่เราใช้งานอีเมลเมื่อไร ตัวแอปฯ เองก็จะตรวจสอบ All inboxes ให้อย่างอัตโนมัติอยู่แล้ว สะดวกง่ายดาย แถมประหยัดแบตเตอรี เพราะระบบ Push Mail บน iPhone 4 หรือ iPad นั้นไม่ได้ทำงานอยู่ตลอดเวลา


6. ปิดระบบ Push Mail เมื่อเราไม่ได้กำลังรออีเมลด่วน
วิธีการ Settings -> Mail, Contacts, Calendar -> Fetch New Data

7. ปิดระบบการแจ้งเตือนต่างๆ (Notification) ที่ไม่จำเป็น
 หากว่าเราไม่ได้ติดตาม Twitter หรือ Facebook อยู่เป็นประจำหรือต้องการที่จะอัปเดตแอปฯต่างๆ ตลอดเวลาอยู่ ก็สามารถที่จะปิดระบบการแจ้งเตือนเหล่านี้ (Notification) ได้โดยทันที หารู้ไม่ว่าฟังก์ชัน Notification ก็กินแบตเตอรีเหมือนกัน อีกทั้งยิ่งเรามีแอปฯที่ต้องการอัพเดตสถานะจำนวนมากเท่าไรก็ยิ่งเปลืองแบตเต อรีมากขึ้นไปอีกด้วย


7. ปิดระบบการแจ้งเตือนต่างๆ (Notification) ที่ไม่จำเป็น
วิธีการ Settings -> Notification

8. ลดระดับเสียงหรือปิดระบบเสียงที่ไม่ต้องการให้ทำงาน
 ถือแม้ว่ามันจะดูไม่สำคัญเท่าไรนัก สำหรับการมานั่งปรับระดับเสียงหรือปิดเสียงระบบต่างๆ แต่มันก็มีผลกับการใช้พลังงานจากแบตเตอรีโดยตรงเลย ลองตรวจสอบดูว่า iPhone 4 หรือ iPad ของคุณได้ตั้งระดับเสียงลำโพงดังเกินหรือไม่ และระบบเสียงไหนที่เราไม่จำเป็นต้องใช้งานบ้างก็ทำการปิดไปได้ครับ ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่ดีขึ้น

8. ลดระดับเสียงหรือปิดระบบเสียงที่ไม่ต้องการให้ทำงาน
วิธีการ Settings -> Sounds -> Ringer and Alerts

9. ปิด Location Services ในแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ
 ถ้าเราไม่ต้องการใช้งานแอปพลิเคชัน Location Services หรือแอปฯไหนที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ ควรปิดแอปฯนั้นไป เนื่องจากตัว iPhone 4 เองจะใช้ชิป GPS ในการทำงาน


9. ปิด Location Services ในแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ
วิธีการ Settings -> General -> Location Services

10. ปิด Bluetooth ทุกครั้ง หลังจากใช้งานเสร็จ
 ไม่ว่าเราเปิดสัญญาณบลูทูธเพื่อเชื่อมต่อกับ Bluetooth Headset หรือจะเป็น Bluetooth Keyboard ก็ต้องอย่าลืมที่จะปิดบลูทูธทุกครั้ง มันจะช่วยยืดระยะเวลาการใช้งาน iPhone 4 หรือ iPad ของคุณไปได้อย่างแน่นอน


10. ปิด Bluetooth ทุกครั้ง หลังจากใช้งานเสร็จ
วิธีการ Settings -> General -> Bluetooth

11. ปิดคุณสมบัติการทำงานสั่น (Vibrate) ในแต่ละเกมส์

11. ปิดคุณสมบัติการทำงานสั่น (Vibrate) ในแต่ละเกมส์

ใครที่ชอบแล่นเกมส์บน iPhone 4 หรือ iPad ถ้าอยากประหยัดแบตเตอรี่ ก็คงต้องปิดการตอบสนองของเกมส์ที่ใช้การสั่น (Vibrate) เพื่อเสริมความสนุกสมจริงในแอคชั่นของหลายๆ เกมส์ ซึ่งการจำลองความรู้สึกโต้ตอบที่เกิดขึ้นในเกมส์นั้นๆ โดยกลไกการทำงาน ก็คือการขับมอเตอร์ลูกเบี้ยวให้หมุน ซึ่งต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่นั่นเอง

12. ปิดการทำงานแอปฯที่ไม่ใช้งานใน Multitasking


12. ปิดการทำงานแอปฯที่ไม่ใช้งานใน Multitasking

 สำหรับผู้ใช้ iOS 4 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติ Multitasking ซึ่งสามารถการเปิดแอปพลิเคชันค้างไว้ได้หลายๆ อัน ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรีหมดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแอปฯที่มีการติดต่อกับอินเทอร์เน็ต อาทิ Skype สำหรับขั้นตอนการปิดก็แค่ดับเบิ้ลคลิกที่ปุ่ม Home ก็จะแสดงแอปฯ ต่างๆ ที่รันค้างไว้ก็จะปรากฎขึ้น จากนั้นใช้นิ้วกดค้างไว้จนกากบาท (X) ปรากฎขึ้นมาที่มุมบนซ้ายของไอคอน สุดท้ายให้ใช้นิ้วแตะเพื่อปิดแอปฯนั้น

 13. ทำการใช้แบตเตอรี iPhone 4 หรือ iPad ให้หมด พร้อมกับชาร์จใหม่ให้เต็มบ้าง อย่างนี้เดือนละครั้ง

13. ทำการใช้แบตเตอรี iPhone 4 หรือ iPad ให้หมด พร้อมกับชาร์จใหม่ให้เต็มบ้าง อย่างนี้เดือนละครั้ง

สุดท้าย iPhone 4, iPod touch หรือ iPad ของเราต้องการที่จะทำการใช้แบตเตอรี่ให้หมดบ้าง พร้อมกับชาร์จใหม่ให้เต็ม (Discharge) ทำอย่างนี้เดือนละหนึ่งครั้ง เนื่องด้วยวิธีการนี้จะทำให้แบตเตอรีทุกเซลล์ได้มีการเปลี่ยนถ่ายประจุใช้ งานบ้าง ส่งผลให้ช่วยลดการเสื่อมสภาพแบตเตอรีลงได้

ขอบคุณบทความจากเว็บไซต์ phonespec.com และ smartmobile.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น